คุณวรวรรณ ธาราภูมิ
CEO บลจ. บัวหลวง
28 กันยายน 2554
เดิมว่าคราวนี้จะเล่าเรื่องทองคำ กับ Class warfare ของ 0_bama ที่กำลังเป็น Talk of the Town ในสหรัฐ ก็พอดีมีแต่เสียงรอบข้างบอกว่ากำลังกังวลเรื่อง EU
รายงานวิเคราะห์จากโบรกเกอร์ที่ส่งมาวันนี้ทุกฉบับก็เป็นเรื่อง EU ทั้งนั้น
ดูเหมือนว่าทุกคนมองว่าปัญหาในสหรัฐนั้นน้อยกว่า EU
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ก็ว่ากันไป๊
จริงอยู่ที่ยุโรปมีปัญหาหนัก เพราะความที่อยากแต่งงานกันมาก และก็ทำสำเร็จจนกลายเป็น EU หรือกลุ่มยูโรโซน ร่วมครอบครัวกัน 27 ประเทศ ทั้งๆ ที่บางประเทศไม่ได้มีฐานะเข้าขั้นที่จะเข้าร่วมวงศ์สกุลของ EU ได้เลย แต่ความที่อยากได้สาวเจ้านัก ก็เลยลด Spec ให้ เอาละ ถึงเอเธนส์จะเป็นสาวสลัม แต่ก็งามนัก เอามาร่วมวงศ์พงศ์พันธุ์ให้ใช้สกุล ณ อียู ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
เล่าถึงสกุลที่มี ณ นำหน้าแล้วนึกได้เรื่องนึง
ส่วนมากเราจะได้ยินนามสกุลที่มาจากสายสกุลสูงเช่น ณ อยุธยา ณ สกลนคร ใช่ไหม
แล้วเคยได้ยินคนนามสกุล ณ จ๊ะ กับ ณ โมตัสสะ บ้างไหมล่ะ นี่ก็พยายามสืบค้นว่าเจ้าเพื่อน 2 คนสมัยเรียนด้วยกันที่บอกว่าตายายของมันมีนามสกุลประหลาดๆ แบบนั้นน่ะ มันมาจากสายไหน ค้นมา 30 กว่าปีแล้ว ยังไม่เจอเลย ใครรู้ก็บอกด้วย
เอา กลับเข้าเรื่องกันเหอะ
ทีนี้ ณ EU ก็เกิดความง่อนแง่นเดือดร้อนเพราะการใช้จ่ายเงินสุรุ่ยสุร่ายของสาวเอเธนส์ที่มีแต่จ่ายแต่ไม่ยอมทำงานหาเงินเท่าไร สู้นังเรยาไม่ได้ เพราะอย่างน้อยก็ยังเป็นแอร์โฮดสะเต้ด พอนังเอเธนส์ไม่พอใช้ มันก็มาแบมือขอทำตากะปริ๊บๆ ทุกครั้ง (และสาวอื่นๆ ในสกุล ณ EU ที่มีเชื้อสายมาจากกลุ่ม ณ PIIGS ก็เอาอย่างกัน)
ไอ้ที่จะเลิกกัน ไล่นังเอเธนส์ หรือไล่นังคนอื่น ออกจากบ้านก็ลำบากใจ เพราะหลวมตัวปล่อยกู้กันไปหลายประเทศแล้ว
ร้อนถึงหัวหน้าตระกูล ณ EU อย่างเฮีย Nicolas Sarkozy ผู้มีเมียสาวสวยมาก กับเจ๊ Angela Merkel นายกรัฐมนตรีเยอรมันนี จนต้องเข้ามาจัดการ
จัดการกันไป จัดการกันมา ธนาคารต่างๆ ที่โดนเฮียกับเจ๊ลากเข้าไปช่วยซื้อพันธบัตรกรีซก็กำลังจะจมน้ำตายไปด้วย ซึ่งธนาคารของฝรั่งเศสก็โดนลดอันดับความน่าเชื่อถือกันไปแล้ว และคงจะไม่หยุดลดอันดับอยู่แค่ธนาคารไม่กี่แห่งเหล่านั้น
แล้ววันนี้เขากลัวอะไรกันล่ะ
กลัว ณ EU จะสิ้นสกุลไง
ก็น้ารูบินี ยังโว้กว้ากอยู่เนืองๆ ว่า “แย่แล้วๆ โลกกำลังจะเจอเศรษฐกิจถดถอยเป็น Great หรือ Double Dips Recession และมีแนวโน้มจะไปถึงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำหรือ Great Depression ด้วยนะเว่ย เฮ่ย”
หลายคนที่ไม่เชื่อน้ารูบินี ไม่เชื่อตั้งแต่บอกว่ามีโอกาสสูงที่จะเป็น Great หรือ Double Dips Recession แต่มาวันนี้ก็ออกมาบอกว่ามีแนวโน้มสูงมากที่จะเป็น
ก็เหลือแต่ The Great Depression ละ ซึ่งเราก็ต้องดูกันต่อไป
แต่อย่าลืมเป็นอันขาดว่า พวกเราเรียกมันว่า The Great Correction ซึ่งไม่ใช่ภาษาการเงิน ไม่ใช่ภาษาเศรษฐศาสตร์ ดังนั้น จะไม่มีใครมาว่าเราทีหลังว่าทายผิด
เอ้า มาดูกรอบการจัดการวิกฤติหนี้ของ EU กัน
เรื่องนี้ สกุล ณ EU เขาตกลงว่าจะทำเป็น Financial Stability Package ไว้คอยช่วยเหลือพวก ณ EU ด้วยกันในวงเงินรวมทั้งสิ้น 750,000 ล้านยูโร แบ่งเป็น 3 วงเงินช่วยเหลือ ได้แก่
1. EFSM หรือ European Financial Stabilization Mechanism 60,000 ล้านยูโร
2. EFSF หรือ European Financial Stability Facility 440,000 ล้านยูโร
3. IMF หรือ International Monetary Fund 250,000 ล้านยูโร (นี่คือไอ้ตัว 2 มาตรฐานแท้ๆ เวลาไทยเจอมรสุมต้มยำกุ้งปี 2540 มันกระทืบเราเสียแบนแต๊ดแต๋ ซึ่งก็ออกมายอมรับแล้วว่าอั๊วคิดผิดไปแย้ว …....... บ้าเอ๊ย)
ใครมีปัญหากับการจำ 2 ชื่อแรกไหม ปวดหัวชะมัด ชื่อย่อก็คล้ายๆ กันด้วย
มาดูเจ้าตัวที่สองกัน
เจ้า EFSF นี่เป็นกองทุนเฉพาะกิจที่ตั้งขึ้นเมื่อ 9 พค 53 โดยกลุ่มยูโรโซน มีสำนักงานใหญที่ลักเซมเบิร์ก เพื่อทำหน้าที่รักษาเสถียรภาพทางการเงินในยุโรปด้วยการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่รัฐบาลของประเทศที่เจ๊กอั้กทางเศรษฐกิจ โดยมีธนาคารเพื่อการลงทุนของยุโรปกับสำนักงานบริหารหนี้เยอรมนี ให้คำแนะนำ
EFSF มีบทบาทในการปล่อยเงินกู้ให้กับประเทศยูโรโซนที่ประสบปัญหา ผ่านช่องทางการระดมทุนที่รวมถึงการออกตราสารหนี้ และเมื่อ 24 มี.ค. 54 สมาชิกตระกูล ณ อียู ยอมให้ขยายวงเงินระดมทุนเป็น 440,000 ล้านยูโรได้ เพราะท่าทาง 220,000 ล้านยูโร มันจะเอาไม่อยู่สำหรับปัญหากลุ่มลูกหมู ณ PIIGS ซึ่งแค่ช่วยนังเอเธนส์ ตัวดีคนเดียว ก็ท่าทางจะตึงมือไม่น้อย
แต่แม้สมาชิก ณ EU จะบอกให้เพิ่มทุนได้ แต่ทุกคนก็ต้องกลับไปถามรัฐสภาในประเทศของตนว่าโอเคไหม
ก็เหมือนเรื่องที่ คุณนพดล กลายเป็น คุณนพโดน ในกรณีเจรจาการเมืองกับกัมปูเจี๋ยโดยไม่ได้ขอมติอนุมัติจากสภาเราก่อนนั่นแหละ
ในวันที่ 29 กันยายน นี้ ตามวันเวลาของเยอรมนี วุฒิสมาชิกเยอรมนีจะลงมติเรื่องเพิ่มขนาด EFSF ซึ่งที่ผ่านมาก็เซย์โนมาตลอด เพราะประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งของเยอรมนีไม่พอใจที่จะเอาเงินจากหยาดเหงื่อแรงงานของตนไปช่วยอุ้มนังเอเธนส์ที่แสนขี้เกียจและเอาเปรียบคนอื่น
ใครเป็นเจ๊ Angela Merkel ก็คงปวดเฮด ไหนจะต้องห่วงเรื่องคะแนนเสียงที่ลดลงไปฮวบๆ ไม่เหมือนน้ำหนักตัวเธอเลย แล้วยังต้องห่วงว่าหากวุฒิสมาชิกไม่ผ่านการเพิ่มทุนให้ EFSF แล้วละก็ ณ EU จะถึงแก่กาลบ้านแตกสาแหรกขาดกันแน่ๆ แถมยังมีธนาคารเยอรมันหลายแห่งที่ให้ นังเอเธนส์ นังฟลามิงโก้ ไอ้เจ้ามาตาดอร์ ฯลฯ ในกลุ่มลูกหมูกู้ไปอีกจำนวนมาก เพราะธนาคารยักษ์ๆ ในเยอรมนีกับผรั่งเศสและที่อื่นๆ พวกนั้นจะล้มตึงหากเพิ่มทุนมาคุ้มหัวหนี้เสียของกลุ่มลูกหมูไม่ได้
ล่าสุด รัฐบาลของ เจ๊แองจี้ (Angela Merkel) ก็แพ้การเลือกตั้งท้องถิ่นของเยอรมนีในเมือง Berlin เมื่อวันที่ 18 ก.ย. 54 เพราะประชาชนทนไม่ไหวแล้ว ที่เอาเงินภาษีไปอุ้มนังเอเธนส์ จึงมีคนคาดกันว่าแผนการเพิ่มวงเงินกองทุน EFSF มีโอกาสสูงที่จะไม่ผ่านการอนุมัติจากรัฐสภาเยอรมนีในวันที่ 29 ก.ย. นี้
เออหนอ .... อิทธิฤทธิ์ นังเอเธนส์ นี่มันรุนแรงถึงกับจะลากทั้งตระกูลให้ล่มจม ตกแป้กไปอีกหลายปี และน่าจะเป็นทศวรรษได้เลยนะนี่
เฮ้อ จะแต่งงานกับคนจนทั้งทีก็ไม่รู้จักหาคนดีที่ใช้จ่ายและหาเงินเป็น นี่ละหนา ตัณหาพาไป
อย่างไรก็ตาม สหรัฐซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดในไอเอ็มเอฟ บอกว่าพร้อมจะสนับสนุนการเพิ่มทุนผ่านการให้ไอเอ็มเอฟจ่ายเงินสมทบแก่ EFSF มากยิ่งขึ้น
จำได้ไหม ที่เคยบอกว่า หากเราเป็น เจ๊แองจี้ (Angela Merkel) เราก็จะไปบี้เอาเงินจาก 0_bama มันก็เป็นจริงแล้วไง
ที่กล้าว่าไปเช่นนั้นล่วงหน้าก็ไม่ใช่ว่าเราเป็นเทพีพยากรณ์หรอก (ทั้งหน้าและหุ่นสมกับเป็นเทโพมากกว่า) แต่เป็นเพราะเรารู้ว่าธนาคารในสหรัฐหลายแห่งก็ปล่อยกู้/ลงทุนในตราสารของยุโรปไง รวมไปถึง Money market Fund ด้วย รายใหญ่ๆ ทั้งนั้นเลย หาก PIIGS แป้ก สหรัฐก็จะอ่วมอรทัยไปด้วย
แล้ว 0_bama จะไปเอาเงินมาจากไหนล่ะ ในเมื่อตัวเองก็หมดตู้ด จนชื่อเป็น President Zero ไปแล้ว
ใครที่เป็นแฟนนานุแฟนประจำ คงตอบได้ ใช่ไหม 555555+
และเมื่อเศรษฐกิจเน่ามากขึ้น ลามมากขึ้น หากเราเป็น 0_bama เราก็จะไปบี้เอากับปักกิ่งนั่นแหละ ด้วยคำขู่ว่า หากอเมริกาตาย พวกลื้อก็ซี้แหงแก๋ไปด้วยละเว่ย ในเมื่อลื้อปล่อยกู้อั๊วตั้งเยอะ และลื้อก็ขายของให้ทั้งอั๊ว ทั้ง EU ตั้งมาก
ล่าสุด นังเอเธนส์ โดน EU กับ IMF จับขึงพืด บังคับให้เร่งทำแผนลดการขาดดุลงบประมาณ ดังนี้
– ลดจำนวนตำแหน่งงานภาครัฐ ประมาณ 20,000 ตำแหน่ง
– ลดเงินเดือนพนักงานภาครัฐและลดเงินบำนาญข้าราชการ
– เก็บภาษีน้ำมัน Heating Oil
– ปิดกิจการรัฐวิสาหกิจที่ขาดทุน
– เร่งการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ
– ลดงบประมาณรายจ่ายด้านอนามัย
หากนังเอเธนส์ไม่ยอม เรื่องที่เธอจะมาขอเงินช่วยเหลือในรอบที่ 6 อีก 8 พันล้าน EUR ก็จะไม่ให้แล้ว ซึ่ง ณ วันนี้ กรีซมีเงินพอจะบริหารประเทศไปจนถึงเดือน ตค นี้เท่านั้น จึงเกิดความเสี่ยงต่อกรีซ และประเทศเจ้าหนี้อย่างเยอรมนีและฝรั่งเศสมากขึ้น ทำให้ตลาดเงินตลาดทุนป่วนกันไปหมดเพราะความกลัวพลิกขึ้นมาเหนือความโลภอีกครั้งแล้ว (Fear Over Greed)
และเมื่อมีข่าว นิๆ โหน่ยๆ ว่ากรีซจะได้เงินช่วยเหลือ ตลาดก็ดีขึ้น เพราะ Greed Over Fear กลับเข้ามาอีกวันหนึ่ง น่าเบื่อจริงๆ เมื่อคนเอาแต่เก็งกำไร ไม่มองไปที่ปัจจัยพื้นฐาน และไม่แสวงหาความรู้ก่อนจะลงทุน แต่สำหรับคนเก็งกำไรที่มีความรู้ ขยันวิเคราะห์ข้อมูล อันนี้ต้องชมกัน เพราะเขาก็หากำไรจากตลาดเน่าๆ ได้ อย่าง อา Jim Rogers
อย่างไรก็ตาม หากนังเอเธนส์ได้เงินกู้มาอีก 8,000 ล้านยูโร ก็แค่ซื้อเวลาเท่านั้น
ซึ่งนายกรัฐมนตรีกรีซ จะประชุม ครม. เพื่อหารือเกี่ยวกับการโดน EU และ IMF ขึงพืดให้รัดเข็มขัดว่าจะยอมไหม หากไม่ยอมก็จะถูกเฉดหัวออกจากคฤหาสน์ตระกูล ณ EU และเมื่อได้ผลแล้วก็จะเข้าหารืออย่างเป็นทางการกับ EU และ IMF อีกครั้งในวันที่ 3 ต.ค.
ดังนั้น ความเสี่ยงจึงอยู่ที่กรีซจะเร่งดำเนินการตามแผนลดงบประมาณที่กำหนดไว้ทันหรือไม่ ในเมื่อมีชาวกรีซประท้วงเผาตัว มีคนจำนวนมากขึ้นทุกวันมาประท้วงไม่ยินยอมกับการรัดเข็มขัดอย่างนี้ และหากล่าช้า ก็จะไม่ได้รับเงินช่วยเหลือในรอบที่ 6 กลางเดือน ต.ค. นี้ แล้วนังเอเธนส์จะเอาอะไรไปจ่ายหนี้กับค่าใช้จ่ายภาครัฐ/สวัสดิการสังคมให้พวกเธอล่ะ ในเมื่อมีเงินใช้พอเพียงเดือนตุลาคมนี้เท่านั้น
กรีซจึงเตรียมเสนอแผนลดเงินเดือนและลดการจ่ายเงินบำเหน็จบำนาญข้าราชการลงเพื่อแลกกับเงินกู้ฉุกเฉินงวดใหม่ โดยจะลดเงินบำเหน็จบำนาญ 20% สำหรับข้าราชการที่เงินเดือนสูงกว่า 1,200 ยูโร ขึ้นไป และจะลดบำเหน็จที่จ่ายให้กับข้าราชการที่เกษียณก่อน 55 ปีลง 40% รวมทั้งจะลดเงินเดือนข้าราชการ 30,000 คน
โอ้ว ...... หากเป็นเรา เราจะยอมไหมล่ะ หือ .....
อีวานเจลอส วีนิเซลอส รมต.คลัง กรีซ ถึงกับกล่าวว่า 'หากไม่มีการแทรกแซงให้ความช่วยเหลือ ความเสี่ยงสูงมากกำลังเกิดกับระบบ เพราะขณะนี้ทั้งเศรษฐกิจจริงและภาคการเงินต่างหยุดทำงานแล้ว
เจ้าหนี้ของ PIIGS
เมื่อดูว่าประเทศไหนปล่อยกู้ให้รัฐบาล PIIGS แล้ว จะเห็นว่า กรีซน่ะยืมเงินน้อยที่สุดในกลุ่มลูกหมู โดยอิตาลี กู้มากถึง 8 เท่าของกรีซ
นักลงทุนจึงเชื่อว่า อิตาลี อาจเป็นรายถัดไป
และในที่สุด S&P ก็ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลีลงจากเดิม A+ เหลือ A และให้คงมุมมองเป็นลบ
อิตาลีน่าจะขายหอเอนปิซาใช้หนี้ หากไม่พอก็เอาสนามโคลอสเซียมแถมไปด้วย แต่อย่าไปแตะวาติกันนะ เพราะเขาเป็นประเทศอิสระ แถมรวยที่สุดด้วย
เป็นเรา เราจะไปถามศาสนจักรว่าช่วยชาติบ้างได้ไหมหลวงพ่อ
หรือไม่ก็ทำตามที่ น้ารูบินี ว่าไว้ คือให้นายกรัฐมนตรีอิตาลี แบร์ลุซโคนี ลาออกไปซะ รับรองว่าอะไรๆ จะดีขึ้นทันที
เอ้า ย้อนกลับไปวอชิงตันนิดนึง เรื่องที่เป็น Talk of the Town ตอนนี้ก็คือ รีพับลิกันกล่าวหาว่า 0_bama กำลังทำให้เกิดปัญหา Class Warfare หมายถึง สงครามชนชั้น ในอเมริกา
อ้อ ... แล้วมันเป็นไงมาไงล่ะ ไอ้เจ้า Class Warfare เนี่ยะ
ก็เพราะ 0_bama บอกให้คนรวยเสียภาษีในอัตราที่ไม่เอาเปรียบคนชั้นกลางที่กำลังจนลงไปทุกวันๆ ตามที่คุณลุงวอร์เรน บัฟเฟต บอกน่ะสิ แล้วรีพับลิกันเลยกล่าวหาว่า 0_bama กำลังพยายามแยกคนอเมริกันออกเป็นชนชั้นต่างกันซี่งไม่เคยมีมาก่อน
0_bama ก็เลยกระทืบคันเร่งเต็มตีน แหกปากตะโกนว่า เขาไม่ได้แบ่งชนชั้น แต่หากการทำให้คนรวยไม่เอาเปรียบคนชั้นกลางแล้วรีพับลิกันจะเรียกมันว่า Class warfare แล้วละก็ เขาจะเต็มใจที่สุดที่จะเป็นแม่ทัพนำคนไปต่อสู้ในสงครามครั้งนี้เพื่อคนชั้นกลางชาวอเมริกันทุกคน
เท่านั้นละ อำมาตย์ กับ ไพร่ ก็เกิดขึ้นในดินแดนลุงแซมทันที 555555555