ค้นหาบล็อกนี้

วันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2554

วิกฤติอเมริกัน ตอนที่ 1

วรวรรณ  ธาราภูมิ

นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน

CEO บลจ. บัวหลวง จำกัด

22 สิงหาคม 2554


(((((( ผ่างๆๆๆๆๆ ))))))  เรียกแขก …..
เมื่อคืนนี้นอนไปตั้ง 6 ชั่วโมง แต่ฝันว่านอนไม่หลับ เนี๊ยะ .... ตื่นมายังง่วงอยู่เลย
ฝันไปว่าตัวเองเป็น นอสตราดามุส มองเห็นอนาคต
เห็นอะไร บอกหน่อย เร็วๆ ดิ๊

เห็นคนอเมริกันในวิกฤติทางการเงินที่นำไปสู่วิกฤติทางสังคมรุนแรงอย่างที่ไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อน
ห๊า แล้วมันเป็นไง มาไงล่ะ
อ้าว แสดงว่าไม่ได้อ่านที่เขียนเลยสิ
อ่านนะ แต่มันลืม
พลั๊วะ !!
เออ บอกใหม่ก็ได้ ก็กงล้อแห่งวิกฤติเนี๊ยะ มันเกิดขึ้นมานานหลายปีแล้ว ตั้งแต่สหรัฐกู้ยืมมาเรื่อยๆ จนมาถึงช่วงปิดหน้าต่างแลกเปลี่ยนทองคำกับดอลลาร์ในยุคอีตา Richard M. Nixon มาจนถึงยุคคุณปู่ Ronald Reagan ที่ประกาศเรแกนโนมิคส์ ที่อิงทฤษฎีเคนเซียน ตามคำสนับสนุนของ Dick Cheney ว่าการเป็นหนี้ไม่เห็นจะแปลกตรงไหน หากทำให้เศรษฐกิจขยายตัว จนหนี้บานเบิกมาถึงวันนี้ แต่สัญญาณแห่งวิกฤติเพิ่งเริ่มปะทุให้เราเห็นชัดๆ เป็นครั้งแรกในช่วงไม่กี่เดือนนี้ไง

ในฝันนั้น เห็นว่าในอนาคตอันไม่ไกลนัก สิ่งที่คนอเมริกันเคยได้รับจากรัฐบาล มันจะหายไป ทั้งความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินที่เคยได้รับ

ตำรวจ ดับเพลิง สวัสดิการรักษาพยาบาลในยามชราภาพ รวมถึงเงินบำนาญจากระบบประกันสังคม ทุกอย่างจะลดน้อยลงจนถึงขั้นระบบไม่ทำงานอีกต่อไปเพราะไม่มีงบประมาณเพียงพอ โจรขึ้นบ้าน กด 911 ก็ไม่มีใครรับสาย ตัวใครตัวเผือก  ดึกๆ ก็มีคนมาลอกแผ่นกระเบื้องหลังคาไปขาย สายไฟฟ้าถูกตัดเอาไปหมด ผู้คนตกอยู่ในความหวาดกลัวและสิ้นหวัง

มาถึงตรงนี้ ดันตกใจตื่น  เลยมานั่งคิดว่าเป็นไปได้เร้อ ที่อเมริกาจะย่ำแย่ขนาดนั้น
อืม .... ก็มีทางเป็นไปได้นะ
เพราะสิ่งที่รัฐบาลอเมริกันได้ทำลงไปเพื่อต่อสู้กับวิกฤติหนี้นั้น นอกจากจะทำให้ราคาบ้านของคนอเมริกันกับเงินออมของประชาชนตกต่ำลงแล้ว ยังทำให้ราคาอาหารและน้ำมันเพิ่มขึ้นเพราะเงินเฟ้อที่เกิดจากบรรดา QE ทังหลายของลุงเบน เบอร์นันเก้ ทำให้ชีวิตคนชั้นกลางลงไปยิ่งลำบากมากขึ้นทุกวันๆ ไม่มีบ้านอยู่เพราะโดนยึด ลูกเมียและตัวเองกินไม่อิ่ม นอนไม่อุ่น ความปลอดภัยไม่มี ไม่มีงานทำ กิ๊กที่เลี้ยงไว้ก็ต้องเลิกเพราะไม่มีเงินส่งกับไม่มีอารมณ์แล้ว
และเมื่อคนทนลำบากไม่ไหว มันจะไปถึงจุดอันตรายที่สุด นั่นก็คือระบบการปกครองที่ล่มสลาย สังคมวิกฤติ ไม่สงบเกิดความรุนแรง ตัวอย่างเล็กๆ ที่คนอาจมองแค่เป็นปัญหาของวัยรุ่นก็เกิดแล้วที่ลอนดอน มันกำลังจะเกิดที่สหรัฐอเมริกา และจะใหญ่กว่า เพราะเมื่อคนหมดหวังกับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ในวันหนึ่งก็จะเกิดม็อบของฝูงชนที่ทนไม่ไหว ไม่พอใจรุนแรง ก่ออาชญากรรมในที่ต่างๆ ด้วยความหิว ความหนาว และความเคียดแค้นชิงชังต่อชะตากรรม กับความเหลื่อมล้ำระหว่างคนจนกับคนรวย ระหว่าง Wall Street กับ Main Street

นี่ไง ประกายไฟเริ่มแล้วจากการที่ น้า Stephen Lerner ได้พูดที่ Pace University ในนิวยอร์คเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาในอารมณ์แบบ Mad Max เพื่อชักชวนคนให้ทำอารยะขัดขืน ไม่ต้องออกไปจากบ้าน
แม้จะโดนธนาคารเจ้าหนี้ไล่ ไม่ต้องจ่ายคืนเงินกู้เพื่อการศึกษา ไม่ให้ความร่วมมือกับรัฐในทุกเรื่อง ซึ่งเป้าหมายคือจะให้แบงค์ต่างๆ หรือพวก Wall Street ที่รัฐเอาเงินที่ขโมยไปจากคนชั้นกลางไปอุ้มไม่ให้ล้ม  ต้องคืนเงิน 17 ล้านล้านดอลลาร์ให้กับประเทศและต้องให้เกิดการกระจายรายได้อย่างเป็นธรรมกว่านี้

น้า Lerner กล่าวว่าไอ้เจ้าพวกที่บริหารประเทศอยู่นี้ใส่ใจอยู่ไม่กี่อย่าง นั่นก็คือ ตลาดหุ้น พันธบัตร กับโบนัสที่พวก Wall Street จะได้ และจะแบ่งมาช่วยสนับสนุนพรรคการเมืองเท่านั้น เขาจึงมีกลยุทธ์ง่ายๆ 3 อย่างคือ 1. ทำให้หุ้นตก  2. ลดโบนัส  และ 3. ลดความสามารถในการแสวงหาความร่ำรวยของคนพวกนั้น

เขาบอกว่าไม่มีที่เริ่มต้นที่ไหนที่ดีเท่า JP Morgan Chase เพราะปล้นความมีอยู่มีกินของพวกเขาไป และจะเป็นการที่คนเดินดินหรือพวก Main Street จะท้าทายพลังอำนาจของ Wall Street เป็นครั้งแรก ในวันที่ 17 กันยายนนี้ โดยจะมีคนจำนวนมากมาร่วมกางเต๊นท์ปักหลักพักค้างแบบลุงจำลองสัก 2-3 เดือนให้เต็มถนน Wall Street กลางเมืองแมนฮัตตัน กรุงนิวยอร์ค แบบว่าจะยึดถนนอันเป็นหัวใจของตลาดหุ้นและสถาบันการเงินกันเลยทีเดียว 

ถึงตอนนี้ ข่าวไม่ได้บอกว่า น้า Lerner จะใช้สัญญลักษณ์ มือตบ ตีนถีบ แบบเมืองไทยด้วยหรือไม่


New York Stock Exchange เห็นได้จาก Wall Street

นอกจากนี้ยังมีทีท่าว่าจะมีคนอีกจำนวนมากที่จะร่วมชุมนุมประท้วงแบบอารยะขัดขืนกันอีกหลายๆ ที่ในสหรัฐในวันเดียวกันด้วย

โอย น่าตื่นเต้นมาก เพราะว่ากำลังจะเดินทางไป Washington DC ในช่วงวันที่ 20-25 กันยายนด้วย ไม่รู้ว่าหนีม็อบราชประสงค์ไปแล้ว จะเจอม็อบไหม

ที่ต้องระวังไว้คือ กองกำลังไม่ทราบฝ่าย ที่เขาเกลียดชังคนอเมริกัน อาจแฝงตัวเข้าไปในฝูงม็อบในรูปแบบของกลม้าไม้เมืองทรอย เพื่อหวังอารยะข่มขืน ความรุนแรงอันไม่คาดคิดจึงอาจเกิดขึ้นได้ในจังหวะทีเผลอ โดยที่สหรัฐไม่มีอะไรแบบ ขออภัยในความไม่สะดวก มาช่วย ตัดก่อนตายเตือนก่อนวายวอด แบบเมืองไทย

แนวคิดยึดพื้นที่ศูนย์กลางทางการเงินที่เรียกว่าปฏิบัติการยึด Wall Street แบบนี้ มันเริ่มได้รับการตอบรับไปหลายประเทศ ทั้ง Spain, Canada, UK, Australia, Germany และ Japan ส่วนฝรั่งเศสก็อาจเกิดด้วย (รอการยืนยัน) และอาจมีปฏิบัติการอื่นๆ มาเสริมในวันที่ 6 ตุลาคม ที่ Washington DC

หลายคนอ่านมาถึงตรงนี้ก็จะส่ายหน้า นึกว่าบ้าไปแล้ว เพื่อนฝูงยอดนักเศรษฐศาสตร์หลายคนอาจจะโทรมาด่าว่าคิดปายด้ายยย .... เมายากันยุงหรือไง

แต่ George Santayana  นักปรัชญา บอกว่า ....

คนไม่เชื่อว่าภูเขาไฟจะระเบิด จนกว่าลาวาจะมาถึงตัว



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น