ค้นหาบล็อกนี้

วันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ใช่ มันทำใจยาก

วรวรรณ ธาราภูมิ
นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน
CEO บลจ.บัวหลวง จำกัด

6 สิงหาคม 2554

สำหรับคนที่เคยมีความมั่งคั่ง ยิ่งใหญ่ ได้รับการต้อนรับ ให้เกียรติในอันดับหนึ่งในทุกๆ สถานที่  เป็นพี่เบิ้ม เป็นหัวหน้าของโลก (แม้ไม่มีใครเขาตั้งให้)  อย่างคนอเมริกัน มันก็ทำใจยากมากที่จะยอมรับในความเสื่อมถอยของตนเอง  

หลังจากคืนวันศุกร์ที่ S&P ลดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไปนิดหน่อยเอง แค่ขั้นเดียว จาก AAA เป็น AA+ ก็มีคนในชาติเดียวกันออกมาก่นด่า ประนาม ชี้ข้อบกพร่องของ S&P ในการเอาตัวเลขไปคำนวณต่างๆ นาๆ บลาๆๆๆๆ  และคงไม่หยุดง่ายๆ เพราะการเอานิ้วชี้หน้าด่าคนอื่นมันง่ายกว่าจะเอากลับมาชี้ตนเองแล้วบอกว่าเราผิด

Come on !!   ต่อให้ S&P ยังคงระดับ AAA ให้สหรัฐ หรือยกเกรดพิเศษที่คิดมาให้อเมริกาโดยเฉพาะให้เป็น AAAAAAAAAA  หนี้สินกับอัตราการว่งงานมันก็ไม่ได้ลด คนอเมริกันจึงหลีกเลี่ยงความจริงไปไม่ได้ว่าตัวเองกำลังถังแตกสุดๆ หากไม่ยอมรับความจริงในวันนี้ แล้วรีบแก้ไขกันอย่างจริงจัง อเมริกาจะรอดพ้นขึ้นมาจากการเสพย์ติดวัฒนธรรมกินก่อน ผ่อนทีหลัง ฟุ้งเฟ้อ ได้อย่างไร การกู้เพิ่ม โดยไม่หารายได้เพิ่มแบบที่ทำนี้ จะไปได้อีกสักกี่น้ำ

ป่วยการที่คนอเมริกันจะมาด่ากันเองว่า S&P งี่เง่า  บางคนถึงกับใช้คำว่า บัดซบ และ @#%&(&@#”?#@##พวกเขาประนาม S&P ว่าทำไมต้องไปเปิดแผลให้คนอื่นรู้  ตลาดจะปั่นป่วน และโลกจะถล่มทลาย ฯลฯ

พุทโธ่ เจ้าหนี้เขาไม่ได้โง่ เพียงแต่เขากำลังขยับขยายผ่องถ่ายไปการลงทุนในดอลลาร์ทั้งหลายไปที่อื่นทีละน้อย เพื่อไม่ให้กระทบกระเทือนจนรับกันไม่ไหวต่างหาก

ที่น่าจับตามองคืออาการหมั่นไส้สุดขีดจากจีน ที่ตำหนิสหรัฐ ผ่านสื่อสำนักพิมพ์ซินหัว ว่า

การตัดสินใจแก้ปัญหาหนี้สินแบบนี้ของสหรัฐเป็นการสายตาสั้นอย่างสิ้นเชิง รัฐบาลสหรัฐต้องยอมรับความจริงแม้จะเจ็บปวดว่าวันคืนเก่าๆ ที่สุขสบายด้วยการกู้ยืมมาใช้ ได้ผ่านพ้นไปแล้ว ในฐานะที่จีนเป็นเจ้าหนี้พันธบัตร ก.คลังของสหรัฐรายใหญ่ที่สุด จีนจะไม่ให้ความเห็นใจที่สหรัฐถูกลดความน่าเชื่อถือทางเศรษฐกิจ และขอใช้สิทธิทุกอย่างที่เป้นเจ้าหนี้โดยชอบธรรมที่จะขอเรียกร้องให้สหรัฐเปิดเผยโครงสร้างการแก้ปัญหาหนี้สินอย่างละเอียด พร้อมให้ความมั่นใจในความปลอดภัยต่อเงินดอลลาร์ของสหรัฐที่จีนถือครองอยู่ นอกจากนั้น ยังเตือนว่าความสะดวกในการกู้เงินมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจแบบเฉพาะหน้าได้ผ่านพ้นไปแล้ว การเพิ่มเพดานหนี้นอกจากจะไม่ได้ปลดชนวนระเบิดหนี้สินแล้ว ยังทำให้อานุภาพของระเบิดรุนแรงขึ้นด้วย ดังนั้น จึงถึงเวลาแล้วที่ประชาคมโลกจะต้องร่วมกันกำหนดนโยบายเกี่ยวกับเงินดอลลาร์

จุกไหม  จุกแน่นอน

ประโยคแรกๆ ยังพอทน แต่ประโยคท้ายสุดนี่ละ พี่เบิ้มจะทนไหวไหม เพราะที่ผ่านมามีแต่อเมริกาที่จะเป็นคนกำหนดชะตากรรมผู้อื่น  แล้วนี่เจ้าเศรษฐีใหม่อย่างจีน บังอาจเพียงใด ถึงจะไปชวนประชาคมโลกให้มาร่วมกันกำหนดชะตากรรมของดอลลาร์  มายก๊อดดดด เธอช่างกล้านัก

โปรดสังเกตุว่าจีนพ่วงคำว่าประชาคมโลกไปด้วย หมายถึงไม่ใช่อาแปะคนเดียว  นี่ก็เพราะจีนยังไม่มีศักย์สงครามเทียบเท่าสหรัฐ

มันก็สมควรหรอก เพราะอเมริกาคิดว่าตนเองเป็นเทวดา ไปจีนยังชอบไปสั่งสอนให้เขาทำโน่นทำนี่ กร่างไปทั่วโดยลืมชะโงกดูเงาตัวเองมาตลอด คนเขาก็เลยหมั่นไส้ ชังน้ำหน้า แต่อย่าไปแหย่มากเลยตอนนี้ เคยเห็นไหม เวลาลูกหนี้จนตรอก เจ้าหนี้อาจเสียชีวิตได้

ยิ่งมหาอำนาจตะวันตกถังแตก ก็ยิ่งน่าห่วงของวิเศษใต้ท้องทะเลไทยที่ใครๆ ก็อยากได้ ช้างสารชนกัน หญ้าแพรกจะแหลกราญ เราอาจกลายเป็นรัฐกันชนไปในที่สุดหากดำเนินนโยบายไม่ดีพอ กางแผนที่โลกดูแล้วหวาดเสียว

ความจริงแล้วคนไม่ได้สังเกตุว่าการลดอันดับแบบนี้มันเกิดขึ้นมาแล้วในสหรัฐ เพราะในยุค ‘80s มีบริษัท เอกชน 60 บริษัทที่ได้อันดับ AAA เท่าอันดับของประเทศ พอมาถึงปี 1995 เหลือเพียงครึ่งเดียว และในวันนี้ที่แม้กระทั่ง Berkshire Hathaway ของลุงวอร์เรน บัฟเฟต GE และ บริษัทยาชั้นนำอย่าง Pfizer ก็ถูกลดอันดับจาก AAA ไปแล้ว มาวันนี้เหลือเพียง 4 บริษัทเท่านั้นที่ยังได้ AAA ซึ่งนับว่ามีฐานะการเงินแข็งแกร่งกว่าสหรัฐ ได้แก่ Microsoft, Exxon Mobil, Johnson & Johnson และ Automatic Data Processing

ก็ต้องชื่นชม คุณลุงวอร์เรน บัฟเฟต ขวัญใจนักลงทุนทั่วโลกเสียหน่อยว่า แม้สหรัฐจะถูกลดอันดับเครดิตลง แต่คุณลุงยังรักชาติ สร้างพลังปลุกปลอบใจให้คนในชาติ ด้วยการออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ในสายตาของผม คนในรัฐโอมาฮ่า ยังเชื่อมั่นว่าสหรัฐยังคงได้อันดับ AAA อยู่ดี และหากมีอันดับ AAAA คุณลุงก็จะให้อันดับนั้นแก่อเมริกา และคุณลุงจะไม่ขายพันธบัตรสหรัฐออกไปจากพอร์ตลงทุน โดยเชื่อว่าวันจันทร์นี้ไม่น่าจะกระทบตลาดเท่าไรนัก คุณลุงบอกว่าให้คิดอย่างนี้สิ

สหรัฐอเมริกาไม่ได้มีหนี้สกุลเงินอื่นเลย มีแต่หนี้สกุลดอลลาร์ และเราก็พิมพ์มันออกมาใช้หนี้เมื่อไหร่ก็ได้ แล้วจะห่วงอะไรกัน แต่อันนี้ไม่ต้องพูดถึงเงินเฟ้อนะ

มันก็จริงของลุง  ใครจะเถียง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น