ค้นหาบล็อกนี้

วันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ECB หรือจะช่วยได้ ?

วรวรรณ ธาราภูมิ

25 พฤศจิกายน 2554

โปรตุเกส เป็นอีกชาติในยูโรโซน ที่พยายามแก้ไขวิกฤตหนี้และเศรษฐกิจด้วยการรัดเข็มขัด ซึ่งจะส่งผลต่อปากท้องของประชาชน ทำให้คนออกมาอาละวาด หยุดงานประท้วงแผนลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาล เดินขบวนไปตามถนน จนปะทะกับตำรวจ เจ็บบ้าง ยังไม่มีตาย มีแต่ถูกจับไปขังคุก นั่งกินฝอยทองไปพลางๆ

แล้ววันนี้ Fitch ก็ลดอันดับเครดิต โปรตุเกส จนต้องระเห็จไปอยู่ในกลุ่มพันธบัตรขยะแล้ว (Junk Bond)   

Moody’s ก็ทำอย่างเดียวกันกับ ฮังการี  ในขณะที่ทั้ง S&P และ Fitch ก็ลงแขกอันดับเครดิตประเทศ ฮังการี จนตกไปอยู่อันดับต่ำที่สุดในกลุ่มขยะ

บราโว เอาเข้าไป

แล้ว S&P ก็ประกาศว่ากำลังเตรียมลดอันดับญี่ปุ่นเหมือนกันเพราะการจัดการหนี้สาธารณะไม่มีความคืบหน้า

อเมริกาเลยโชคดีนิดหน่อย ที่มีข่าวแบบนี้มาช่วยกลบความล้มเหลวในการพิจารณาตัดงบรายจ่าย เพิ่มรายได้ ของ Super Committee  

นั่งรถบรรทุกเก่าๆ ของเพื่อน ไปช่วยแจกจ่ายของแก่คนน้ำท่วมในงานนอกโครงการกองทุนตลาดทุนร่วมใจช่วยภัยน้ำท่วม  นั่งไป ลุยน้ำไป ตับไตไส้พุงชักจะคลอน เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวไปหมด ก็ตามอายุนั่นแหละ

รู้สึกทุกอวัยวะของรถ และของเรา มันกำลังจะหล่นออกมาจากตัวเป็นชิ้นๆ ทีละชิ้นสองชิ้น 

คงจะเหมือนยุโรปตอนนี้   

เยอรมันนี ขายพันธบัตรรัฐบาลได้ไม่หมด เหลือตั้ง 1 ใน 3 ที่ไม่มีใครกล้าซื้อ
ฝรั่งเศส ก็จะถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือในการชำระคืนหนี้
ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลในยุโรปพุ่งสูงขึ้นพรวดๆ เพราะคนเห็นว่ามันเสี่ยงที่จะไม่ได้เงินต้นคืนมากขึ้น

ความล้มเหลวในการขายพันธบัตรรัฐบาลเยอรมันที่ประมูลล็อตล่าสุดนี้สะท้อนให้เห็นถึงความกดดันอย่างหนักที่ ECB หรือธนาคารกลางยุโรปได้รับเป็นหลายเท่า

หาก กรีซ หรือ อิตาลี ขายพันธบัตรรัฐบาลตัวเองไม่หมด ใครจะไปสนใจ ก็รู้ๆ กันอยู่แล้วว่ามันเน่ามากที่นั่น เลยไม่มีใครกล้าซื้อเพราะกลัวไม่ได้ตังค์คืน

แต่นี่ มันเกิดขึ้นกับประเทศเยอรมันนีที่มีฐานะการเงินแข็งปึ้กที่สุดในยุโรป

ดังนั้น คุณป้าแองจี้ นายกรัฐมนตรีเยอรมัน กับ ผู้ว่าการแบงค์ชาติ และ รัฐมนตรีคลัง รวมไปถึงนายธนาคารต่างๆ ในเยอรมันก็เลยเต้นเป็นเจ้าเข้า

ทำไมต้องเต้นล่ะ

ไม่เต้นได้ไง รู้ไหมล่ะว่าตลอด 4 ปีที่ผ่านมานี้ กลุ่มยูโรมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นเท่าไหร่

ศูนย์ สนิท  ศิษย์หามลง !!    จู๋น จุด จู๋น จู๋น  และบางทีก็ติดลบ

ใช่แล้ว เศรษฐกิจกลุ่มยูโรหดตัว แม้ไม่มากเท่าญี่ปุ่นที่หดไป 5%  แต่ก็หดอยู่ดี  ไวอากร้าก็ช่วยไม่ไหว

แล้วพวกที่ฝากเงินในแบงค์ต่างประเทศล่ะ จะฝากที่ไหนถึงจะปลอดภัย

ที่ Deutsche Bank ซึ่งปึ้กสุดๆ ในกลุ่มแบงค์เยอรมันเหรอ ?  หรือไปฝากแบงค์ที่แข็งแกร่งสุดๆ ในแถวหน้าของ Wall Street แบบ J.P. Morgan ??

อู้ว ..... มาดูอะไรกันหน่อย

Grant’s Interest Rate Observer  ทำการวิเคราะห์เปรียบเทียบแบงค์เยอรมันกับแบงค์อเมริกัน และฟันธงออกมาว่า

แบงค์ในอเมริกาแข็งแกร่งกว่าเยอรมันในเกือบทุกๆ ด้าน และ Deutsche Bank มีอัตราส่วนสินทรัพย์ต่อทุนสูงกว่า J.P. Morgan ถึง 3 เท่า

หมายความง่ายๆ ว่า Deutsche Bank มีตังค์ตัวเองจากผู้ถือหุ้นส่วนนึง และต้องกู้ยืมหรือระดมเงินฝากเยอะๆ เพิ่มเป็น 3 เท่าของตังค์ตัวเอง เพื่อนำไปปล่อยสินเชื่อและไปลงทุนในหลักทรัพย์เพื่อหารายได้ เช่น ซื้อพันธบัตรรัฐบาลต่างๆ 

ก็ถ้าพันธบัตรหรือสินเชื่อที่ปล่อยไปแล้วไม่มีเงินมาคืน หรือเป็นหนี้เสีย  จะหารายได้ที่ไหนพอมาจ่ายให้ฝั่งผู้ฝากเงินเล่า 

และหากลูกค้าตื่นตระหนก แห่ถอนเงินฝากล่ะ  แบ๊ะๆๆๆๆๆ

นอกจากนี้ เยอรมันนียังมีอัตราส่วนหนี้ภาครัฐต่อ GDP พอๆ กับอเมริกา ในขณะที่ประเทศอื่นๆ ในยุโรปมีอัตราที่สูงกว่า คนถึงไม่อยากซื้อพันธบัตรประเทศเหล่านั้น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเทศยูโรอื่นๆ เลยต้องพุ่งขึ้นสูงเพื่อ ล่อซื้อ

เออ แล้วไง มาบอกทำไมกัน

ก็ธนาคารกลางยุโรป หรือที่เรียกย่อๆ ว่า ECB เขาจะไปช่วยซื้อพันธบัตรแทนไงล่ะ

ปู่ จอร์ช โซรอส จอมวายร้ายของคนไทยและคนอังกฤษ บอกว่า  

เฮ้ย  ECB รีบอัดฉีดสภาพคล่องให้ 17 ประเทศสมาชิกได้แล้ว  ไม่งั้นคนแห่ขายทิ้งพันธบัตรยุโรปที่เคยลงทุนไว้แน่ๆ  แล้วรีบกำหนดเพดานอัตราผลตอบแทนพันธบัตรไว้ซะ ไม่งั้นสกุลเงินยูโรจบเห่ ชิบหายแน่

ปู่ จอมวายร้ายของเราในอดีต ยังกำชับด้วยว่า

เนี่ยะ ต้องใช้กลไกผ่านกองทุนช่วยเหลือฉุกเฉินของยูโร (European Financial Stability Facility หรือชื่อย่อว่า EFSF) โดยให้เอาเงินจาก EFSF ไปให้ธนาคารกลางยุโรป (ECB) แล้ว ECB จะได้เอาเงินนั้นไปอัดฉีดสภาพคล่องให้ระบบอีกทีโดยซื้อพันธบัตรที่ไม่มีคนซื้อนั่นแหละ  ทำแบบนี้แล้วอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะได้ลดลงเพราะมีคนยอมซื้อแล้วซึ่งก็คือ ECB ไงล่ะ ไอ่โง่

ตอนนี้เหมือนตลาดกำลังทดสอบว่า ECB จะ เอาอยู่ ไหม

อืม .... ไหวไหม ECB  

เมื่อทั้งนายแบงค์ ทั้งประชาชน ต่างกำลังร้องโหยหวนขอความช่วยเหลือกันระงมในหลายประเทศในกลุ่ม EU  

แล้ว ECB จะใจดำหรือเปล่า  และที่สำคัญ ECB มีตังค์มากพอจะอุ้มกันทั้งหมดได้ไหม

ไม่มีทาง 

แต่ ECB ก็ต้องออกมาสวมกุงเกงในสีแดงทับกุงเกงยืดรัดติ้วสีน้ำเงินแบบซุปเปอร์แมน แม้จะรู้ตัวว่ามันโง่ที่จะทำ

แม้แต่จะต้องเดินตามรอยอเมริกาในการพิมพ์แบงค์กงเต็ก ไม่ว่าจะถูกกฏหมายหรือไม่ก็ตาม และแม้ว่าจะรู้ว่าในที่สุดชะตากรรมจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ ECB ก็ต้องออกมาช่วยไว้ก่อน

เพราะในช่วงชุลมุน อลหม่าน ทุกคนจะทำเป็นลืมกฏหมายไปกันหมด
และเพราะนักการเมืองย่อมเสี่ยงไม่ได้ที่จะไม่มีใครเลือกตั้งกลับเข้ามาบริหาร

หลายคนที่มองทะลุ เลยชักอยากจะเข้าพวก 1% ซึ่งเป็นคนรวยผู้น่าสงสาร ที่พวก Occupy Wall Street 99% มันเกลียดแล้วละ 

ก็เล่นจะเอาภาษีที่จ่ายไปละเลงกันเละตุ้มเป๊ะไปหมดนี่ 

1% ไม่ได้ผิดอะไรที่จะรวยนี่นา  หากเขารวยได้เพราะไม่โง่และไม่โกงใคร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น